ชื่อวิทยาศาสตร์ | Ocimum tenuiflorum L. |
ชื่อสามัญ | Holy Basil |
วงศ์ | Labiatae |
ชื่ออื่น | – |
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
|
ในประเทศไทยนั้นกะเพรามีอยู่ทั้งหมด 3สายพันธุ์ มี 1.กะเพราแดง 2.กะเพราขาว 3.กะเพราลูกผสม ปกติกะเพราสูงประมาณ 30-60ซม. จึงจัดว่าเป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก กิ่งก้านและลำต้น จะมีลักษณะคล้ายๆสามเหลี่ยม โดยตรงยอดจะเป็นส่วนที่อ่อนที่มีขนอยู่ทั่ว
ใบ เป็นใบเลี้ยงเดี่ยวปลายใบแหลม ขอบใบเรียบหรือบางพันธุ์จะเป็นหยักซี่ๆ ดอก จะออกเป็นช่อย่อยเล็กๆอยู่แถวๆปลายยอด โดยดอกจะมีกลีบสีขาวปนม่วงแดง เมล็ด ของกะเพรานั้นมีสีน้ำตาล เมล็ดเล็กลักษณะรูปไข่ เมล็ดจะมีเมือกถ้าหากนำไปแช่น้ำ เมือกจะพองออก
|
สรรพคุณ | 1.ช่วยบำรุงไฟธาตุ เพราะใบมีรสเผ็ดร้อน
2.ใบช่วยขับลม แก้ปวดท้องได้ 3.ช่วยบรรเทาอาการหอบหืดได้ 4.ช่วยขับน้ำนมและขับเหงื่อได้ 5.เมื่อนำต้นไปสกัดน้ำ แล้วนำมาดื่มจะช่วยให้ขับน้ำให้ดี 6.ช่วยรักษาแผลสำหรับคนมีแผลในกระเพาะ 7.น้ำมันที่สกัดจากใบกะเพรา จะช่วยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ตามแผลได้ 8.ช่วยนำฝุ่นละอองออกจากตาได้ โดยการนำเมล็ดไปแช่น้ำ และเมื่อแช่น้ำจะมีเมือกพองออกและเมื่อนำไปพอกที่ตาก็จะทำให้ฝุ่นละอองหลุดออกมาได้ง่าย โดยตาไม่ระคายเคือง 9.สามารถนำกิ่งและใบมาสะกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยได้ 10.สามารถไล่ยุงได้ โดยการนำใบสดมาบดแล้วนำมาวางบริเวณที่ต้องการ
|
แหล่งอ้างอิง | http://www.thaicrudedrug.com |