ชื่อวิทยาศาสตร์ | Ruellia tuberosa linn. |
ชื่อสามัญ | Waterkanon, Watrakanu, Minnieroot, Iron root, Feverroot, Popping pod, Cracker plant, Trai-no, Toi ting |
วงศ์ | ACANTHACEAE |
ชื่ออื่น | – |
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
|
ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 50 ซม. มีรากสะสมอาหาร ตามข้อบวม ใบเรียงตรงข้าม รูปรี รูปไข่กลับ หรือแกมรูปขอบขนาน ยาว 4-8 ซม. แผ่นใบมักมีขนสั้นแข็งกระจายทั้ง 2 ด้าน ก้านใบยาวได้ถึง 8 มม. ช่อดอกแบบช่อกระจุกหรือออกเดี่ยว ๆ ตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ก้านช่อยาวได้ถึง 2.5 ซม. ใบประดับเรียงตรงข้าม รูปใบหอก ยาว 3-9 มม. ก้านดอกยาว 0.6-1 ซม. หลอดกลีบเลี้ยงยาวประมาณ 6 มม. ปลายแยกเป็น 5 แฉก รูปใบหอก ยาว 1-2 มม. ติดทน ด้านนอกมีขน ดอกรูปแตร สีม่วง ยาว 2.2-5.5 ซม. ด้านนอกมีขน มี 5 กลีบ รูปรี กว้างประมาณ 1.5 ซม. เกสรเพศผู้ 2 คู่ ยาวไม่เท่ากัน ยาวประมาณ 4 มม. และ 8 มม. บางครั้งมีเกสรเพศผู้ที่เป็นหมัน 1 อัน อับเรณูมีขน รังไข่มี 2 ช่อง ก้านเกสรเพศเมียยาวประมาณ 2 ซม. มีขนสาก ยอดเกสรจัก 2 พู เป็นแผ่นบาง ๆ ผลแห้งแตก รูปแถบ ยาว 1.8-2.5 ซม. ผนังกั้นมีต่อมเป็นตะขอ ก้านยาวได้ถึง 2 ซม. มีหลายเมล็ด ขนาดเล็ก มีขนไวต่อความชื้น |
สรรพคุณ | 1.รากใช้เป็นยารักษารักษาโรคไอกรน (ราก)
2.รากใช้เป็นยาขับเลือด (ราก) 3.รากต้อยติ่งสามารถนำมาใช้เป็นยารักษาโรคไตได้ (ราก) 4.รากช่วยดับพิษในร่างกาย (ราก) 5.ช่วยทำให้อาเจียน (ราก) 6.ใบใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ (ใบ) 7.รากหากนำมาใช้ในปริมาณที่เจือจางสามารถช่วยจำกัดสารพิษในเลือดได้ (ราก) 8.ช่วยบรรเทาอาการสารพิษตกค้างในปัสสาวะ (ราก) 9.ช่วยขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะพิการ (ราก) 10.ใบใช้พอกแก้อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ (ใบ) 11.เมล็ดใช้พอกฝีเพื่อดูดหนองและช่วยลดการอักเสบ (เมล็ด) 12.เมล็ดใช้พอกแผลเรื้อรัง ช่วยสมานบาดแผล แผลมีฝ้ามีหนอง และช่วยเรียกเนื้อ (เมล็ด) 13.เมล็ดมีสรรพคุณช่วยทำให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น (เมล็ด) 14.เมล็ดช่วยแก้อาการผดผื่นคัน (เมล็ด) 15.ต้อยติ่งทั้งต้นเอาชนิดที่ไม่แก่ ดอกยังไม่ร่วงโรย นำมาถอนเอาทั้งรากไม่ให้รากขาดและอย่าให้เมล็ดแตก ประมาณ 4-5 ต้น แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด โขลกต้นเอาแต่น้ำมาดื่ม จะช่วยแก้อาการปวดเข่า ขาชา ร้าวลงได้ ซึ่งใช้เวลาในการรักษาเพียง 7 วันก็หาย (ทั้งต้น) 16.รากใช้ผสมเป็นยาแก้พิษ ดับพิษ และทำเป็นยาเบื่อ (ราก) |
แหล่งอ้างอิง | http://www.dnp.go.th
https://www.pstip.com/สมุนไพร/ |