ชื่อวิทยาศาสตร์ | Hedychium coronarium J.Koenig |
ชื่อสามัญ | Butterfly lily, Garland flower, Ginger lily, White ginger |
วงศ์ | ZINGIBERACEAE |
ชื่ออื่น | กระทายเหิน หางหงส์ (กลาง); ตาห่าน เหินแก้ว เหินคำ (มหาสารคาม) |
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
|
ไม้ล้มลุก มีเหง้าใต้ดิน เหง้าสีนวล มีกลิ่นเฉพาะ ส่วนเหนือดินสูง 1-1.5 เมตร ลำต้นเหนือพื้นดินเป็นลำต้นเทียมที่มีกาบใบซ้อนแน่น กลม สีเขียว
ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปขอบขนานหรือรูปใบหอก กว้าง 5-8 เซนติเมตร ยาว 16-25 เซนติเมตร มี 7-12 ใบ ก้านใบสั้น ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย เส้นกลางใบปรากฏเด่นชัดด้านหลังใบ แผ่นใบด้านบนเกลี้ยง ผิวใบด้านล่างมีขนนุ่มโดยเฉพาะเส้นกลางใบ แผ่นใบมักงอตัวลงด้านหลัง ก้านใบเป็นกาบหุ้มลำต้น เกลี้ยง เป็นมัน ลิ้นใบยาว1.5-3.0 ซม. เป็นเยื่อบางสีขาว ปลายแยกเป็นสองแฉก ดอกช่อ ออกที่ปลายยอดของลำต้นเทียม กว้าง 4.0-8.0 ซม. ยาว 10.0-15.0 ซม. ก้านช่อดอกยาว 5.0 ซม. มีใบประดับใหญ่จำนวนมาก เรียงซ้อนและขนาดลดหลั่นตามลำดับ ใบประดับรูปหอกหรือรูปไข่ กว้าง 2.5-4 ซม. ยาว 4-6 ซม. ปลายแหลม ผิวเกลี้ยง สีเขียว ใบประดับย่อย รูปหอก ปลายมน ผิวเกลี้ยง ขอบพับเข้าหากัน ตรงกลางเป็นสัน แต่ละอันซ้อนเหลื่อมกัน เมื่อกางออกกว้าง 1.5 ซม. ยาว 3.0-3.3 ซม. ดอกมีขนาดใหญ่ มีกลิ่นหอม ออกตามซอกใบประดับ 1-5 ดอก กลีบดอกรูปแถบแคบๆ กว้าง 0.2 มม. ยาว 3.5-4.0 ซม. ปลายมน สีขาว กลีบปากรูปไข่เกือบกลม กว้าง 5.0-5.5 ซม. ยาว 4.0-4.5 ซม. ปลายแยกเป็น 2 กลีบ ลึกเป็นเศษหนึ่งส่วนสามของกลีบ สีขาว ตรงกลางกลีบค่อนไปทางโคนกลีบสีเหลือง สีขาวหรือนวล โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดเล็กยาว 5-8 เซนติเมตร สีขาว ปลายกลีบดอกหยักบาง กลีบเลี้ยงสีเขียว โคนเชื่อมติดกัน หลอดกลีบเลี้ยงยาว 2.0-4.0 ซม. ปลายแยกเป็น 3 แฉกตื้น และแยกลึกลงเพียงด้านเดียว กว้าง 6.0 มม. ยาว 1.7 ซม. ปลายกลีบสีขาวแกมเขียว ส่วนโคนสีขาว เกสรเพศผู้ที่เป็นหมันแผ่เป็นกลีบขนาดใหญ่ รูปไข่กลับแกมรูปรี หรือรูปรีแกมรูปขอบขนาน กว้าง 2.2-2.4 ซม. ยาว 4.2-4.5 ซม. ปลายมนสีขาว เกสรเพศผู้ อับเรณู รูปขอบขนาน กว้าง 0.3 ซม. ยาว 1.4-1.5 ซม. ก้านชูอับเรณูยาว 1.4-2.0 ซม.เกสรเพศผู้ที่สมบูรณ์ 1 อัน รังไข่รูปขอบขนานกว้างประมาณ 0.2-0.4 ซม. ยาวประมาณ 0.3-0.5 ซม. ผิวเรียบ มี 3 ห้อง ยอดเกสรเพศเมีย เกือบกลม ขนาดประมาณ 0.1 ซม. ผลเป็นผลแห้ง รูปทรงกลม แตกออกได้เป็น 3 พู ออกดอกเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม |
สรรพคุณ | ตำรายาไทยใช้
เหง้า เป็นยาบำรุงกำลัง ขับลม บำรุงไต ตากแห้งแล้วบดให้ละเอียดผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอน กินแก้กษัย (การป่วยที่เกิดจากหลายสาเหตุ ทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม ซูบซีด โลหิตจาง ปวดเมื่อย) น้ำมันจากเหง้าสด ฆ่าแมลง |
แหล่งอ้างอิง | http://www.phargarden.com/
https://medthai.com/ |